เพชรบูรณ์- ยายวัย80ปี เล่านาทีพายุถล่มบ้านพัง ขนาดท่อง พุทโธ นะโม สังโฆ ก็ยังเอาไม่อยู่ พายุหมุน ตีเกลียวคล้ายงวงช้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เบียร์ดี นายอำเภอวังโป่ง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งลงพื้นที่ สำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน หลังจากช่วงหัวค่ำ วานนี้ (23เมษายน66) ได้เกิดพายุฤดูร้อน ลมฝนตกกระหน่ำนานนับชั่วโมง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลวังหิน หมู่ 1 – 2 – 8 – 10 – 11 – 12 – 13 – 14 และ 16 ถูกลมพายุพัดเสียหายกว่า 140 หลังคาเรือน บางหลังหนักสุด ถูกพายุหอบหลังคาบ้านปลิวหายทั้งแถบ โดยตลอดทั้งวัน ชาวบ้านต่างพากันเก็บสิ่งของภายในบ้านที่เสียหาย และออกตามหาสังกะสี ที่ปลิวหายไปกับแรงลม เพื่อเร่งนำกลับมาซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หวั่นถูกพายุถล่มซ้ำอีกระลอก
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีโรงเรียนบ้านวังหิน หมู่ 1 ก็ได้รับความเสียหายจากฤทธิ์พายุฤดูร้อน พัดต้นไม้จนล้มลงมาทับโรงอาหารและโรงน้ำ สำหรับไว้ให้เด็กนักเรียนใช้ล้างมือ ล้างหน้าแปรงฟัน จนโครงสร้างอาคารพังถล่มลงมา ได้รับความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้น ทางโรงเรียนได้เร่งสำรวจ และเตรียมซ่อมแซม เพื่อให้พร้อมกลับมาใช้งานได้ ในช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกัน ที่วัดใหม่วังตะเคียน หมู่10 ก็ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ถูกลมพายุ พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง จนศาลาเจ้าแม่ตะเคียนทองต้านทานแรงลมไม่ไหว พังทลายลงทั้งหลัง และทับต้นคะเคียน ที่เก็บรักษาไว้ จนได้รับความเสียหายบางส่วน
จากการสอบถาม นางผัน แสงสี อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 1 บ้านวังหิน ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า ตอนนั้นยายกำลังจะเข้าห้องน้ำ พายุฝนกำลังมา ตอนนั้นลมแรงมาก กลัวมาก ออกมาก็ออกมาไม่ได้ ทั้งฟ้าทั้งฝนทั้งลม ซึ่งที่ผ่านมา ก็เคยเจอเกือบทุกปี แต่ไม่แรงขนาดนี้ปีนี้ ลมแรงมากทำร้ายบ้านเรือนพังเกือบหมด ซึ่งตอนนั้นตกใจจนนึกอะไรไม่ออก พยายามท่อง พุทโธ นะโม สังโฆ ก็ยังเอาไม่อยู่ บ้านพังหมดจนได้
ด้าน นางบุญมี ศรีดี อายุ63 ปี อยู่บ้านเลขที่98บ้านวังหิน หมู่1ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า บ้านของตนหนักมาก หลังคาบ้านไปหมดทั้งหลังเลย ตอนนั้นตนอยู่ข้างบ้านกำลังจะขึ้นมาเก็บของ พอลมมาทางหน้าต่างพัดอย่างแรง อีกสักพักลมก็ได้หมุนหลังคายกไปทั้งคานเลย ทั้งสังกะสีและไม้แปลไม้มอบไม่เหลือเลย ลักษณะของลมหมุนมาเป็นเกลียวคล้ายงวงช้างแล้วก็พัดไปห่างจากบ้านเกือบ 50 เมตร ตนไม่เคยเจอแบบนี้เลยตั้งแต่เกิด เป็นครั้งแรกเลยที่เจอกับตนรู้สึกกลัวมากเพราะตอนนั้นอยู่กับหลานสาว 2 คนและก็มียายอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยกันบ้านอยู่ด้วยกัน 4 คนทั้งหลานและยาย ตอนนี้ก็ไม่มีเงินที่จะซ่อมแซมได้ แต่ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาช่วยเหลือ
เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว